รีวิวซีรีส์ Sweet Home 3

รีวิวซีรีส์ Sweet Home 3  ฮยอนซู ด้านมืดของคนที่พยายามเข้ายึดครองร่างกายของเขา เน้นย้ำถึงแง่มุมที่ผู้ฟังจากอพาร์ตเมนต์สีเขียวก็ได้สำรวจสนามกีฬาที่กองทัพดำที่เหลือใช้เป็นฐานในการรับอำนาจเช่นกัน ทีคิดว่าการทดสอบต้นแบบคือสิ่งที่สิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนเลือดได้เข้ายึดครองร่างกายของพยอนซังอุคและสามารถรวบรวมส่วนประกอบในหมอได้ การรับรู้เป็นผลรวมที่จะเปลี่ยนโลกให้เป็นของเรา จะพิจารณาและเราเข้าข้างอึน

ฮยอกที่เสียชีวิตตั้งแต่ซีซั่นแรก กลับมาเพื่อพบกับมนุษย์อมตะแต่ไร้ความรู้สึกเพื่อกำจัดผู้ที่แปลงร่างเหมือนพยอนซังอุค และตัวอย่างสำคัญในการต่อสู้ครั้งนี้คือลูกสาวของลูกสาวของซออีคยองผู้มีพลัง ครั้งต่อไป คนธรรมดาคนหนึ่งก็กลายเป็นจุดที่สมบูรณ์แบบของการรวมกันและอันตรายที่จะเกิดขึ้นอย่างถาวร ผู้มีอำนาจและอีอึงบ๊ก (Lee Eung-Bok) กับผลงานฮิตติดลิขสิทธิ์อย่าง ‘Descendants of the Sun’ (2016) และ ‘Goblin’ (2016-2017) อีกครั้งในผลงานการขอเว็บตูนชื่อเดียวกันในซีซั่น 3 โดยเพิ่มซีซั่นสุดท้ายเข้าไปด้วย ในซีซั่นแรก

อีอึงบ๊กเจาะลึกงานแนวระทึกขวัญ Sci-fi ที่มี 10 ตอน เล่าถึงหลายกลุ่มที่จำกันได้ แต่มีข้อดีคือเล่าเรื่องที่มีปัญหาเล็กน้อย บวกกับบทพูดที่อยากให้เป็น และคุณภาพของ CG ที่ยังไม่สมบูรณ์ ซีรีส์ที่ผิดพลาดแต่ก็ยังดูได้กับความแปลกและความสนุกของการหลบหนีความตายที่เป็นรสชาติที่ตื่นเต้นเร้าใจ แต่ในซีซั่น 2 อีอึงบ๊กได้ขยายขอบเขตการเล่าเรื่องออกไปไกลจากอพาร์ตเมนต์กรีนโฮม พบการรับสัญญาณและกองทัพรู้เกี่ยวกับโครงการวิจัยลับ กินอาหารที่มีมิติที่น่าเห็นใจต่อผู้ร้ายมากกว่าที่กล่าว โปรตีนได้แนะนำสายพันธุ์ใหม่ของสิ่งมีชีวิตที่ยังคงอธิบายไม่ได้และคำอธิบายของลูกสาว (คิมซีอา) ของซออีคยอง (อีเซยอง) ที่ควบคุมร่างกายส่วนใหญ่และเปลี่ยนคนธรรมดาให้กลายเป็นความรู้สึกของลำไส้อีกครั้ง เธออาจกลายเป็นราชินีคนใหม่

เนื้อเรื่อง รีวิวซีรีส์ Sweet Home 3

ผู้กำกับ Lee Eung-bok ผู้สร้างผลงานดังอย่าง Descendants of the Sun (2016) และ Goblin (2016-2017) กลับมาอีกครั้งกับซีซั่นที่ 3 และซีซั่นสุดท้ายของเว็บตูนที่ดัดแปลงมาจากชื่อเดียวกัน ในซีซั่นแรก Lee Eung-bok ได้สร้างซีรีส์ระทึกขวัญแนววิทยาศาสตร์จำนวน 10 ตอนเกี่ยวกับกลุ่มตัวละครขนาดใหญ่ที่ติดอยู่ในสถานที่เดียวกัน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากข้อบกพร่องของการเล่าเรื่องด้วยพล็อตย่อยมากเกินไป ธีมที่เป็นจริงมากเกินไป และคุณภาพ CG ที่ไม่เพียงพอ ซีรีส์เรื่องนี้จึงไม่เป็นไปตามที่คาดหวังรีวิวซีรีส์ Sweet Home 3

แต่ก็ยังพอรับชมได้เนื่องจากความแปลกประหลาดและความระทึกขวัญที่น่าตื่นเต้นของการหลบหนีความตาย อย่างไรก็ตามในซีซั่นที่สอง Lee Eung-bok ได้ขยายขอบเขตของการเล่าเรื่องออกไปนอกอพาร์ทเมนต์ Green Home โดยแสดงให้เห็นถึงการตอบโต้ของรัฐบาลและกองทัพ โครงการวิจัยลับที่สร้างมิติที่น่าเห็นใจมากขึ้นสำหรับผู้ร้ายเนื่องจากสิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญ และยังแนะนำสายพันธุ์ใหม่ที่ยังไม่ได้อธิบาย เช่นเดียวกับความลึกลับของลูกสาวของ Seo Yi Kyung (Lee Se Young) (Kim Si Ah) ที่ควบคุมสัตว์ประหลาดและสามารถเปลี่ยนคนธรรมดาให้กลายเป็นสัตว์ประหลาดได้ เพื่อที่เธอจะได้กลายมาเป็นราชินีของโลกใหม่

หากซีซั่นแรกทำให้ตัวละครรองดูเท่และมีความสามารถมากกว่าตัวเอกที่ยังไม่โตเต็มที่ซึ่งไม่สามารถใช้พลังของเขาได้ ทำให้ตัวเอก Cha Hyun Soo (Song Kang) ดูเบื่อ ซีซั่นที่สองนี้ทำให้โฟกัสของเรื่องเคลื่อนออกไปจากตัวเอกมากขึ้น ความสนใจแผ่ขยายไปยังหน่วยชุดดำของจ่าทัก สังคมของสนามกีฬา ป้อมปราการสุดท้ายของเมืองที่มีการปกครองเป็นของตัวเอง จนกระทั่งตัวละครใหม่จำนวนมากปรากฏตัว นอกจากนี้ยังมีการทดลองที่ผิดจริยธรรมของหมออิมและภูมิหลังของปีศาจเลือดที่เปิดเผยว่าเป็นอดีตคนรักของซออีคยองชื่อนัมซองวอนและน่าจะเป็นพ่อของหญิงสาวลึกลับ ไม่ต้องพูดถึงการเกิดใหม่ของอึนฮยอก (อีดูฮยอน) พี่ชายของอึนยู (โกมินซี) ที่น่าสงสัยเช่นกัน

พล็อตเรื่องน่าสับสนและขนาดของเรื่องราวก็ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งพระเอกซึ่งบทบาทของเขาดูเหมือนจะทำให้เขาดิ้นรนกับจิตใจของเขาว่าเขาจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ประหลาดก็ยิ่งหลงทางในความโกลาหลของเรื่องราว หากคุณเห็นว่าเว็บไซต์ BT ไม่มีการวิจารณ์ซีซั่น 2 ของซีรีส์นี้อย่าแปลกใจ แม้จะดูแล้วก็ยังทำใจเขียนเกี่ยวกับมันไม่ได้ ฉันอยากจะลืมมันและข้ามมันไป

อย่างไรก็ตาม การกลับมาของซีซั่น 3 อาจกล่าวได้ว่าเป็นความพยายามที่จะทำให้เรื่องราวน่าสนใจและง่ายขึ้น หรือบางทีอาจเป็นเพราะว่าซีซั่นล่าสุดได้นำเสนอสิ่งใหม่ๆ มากมายจนในที่สุดก็สามารถจบลงได้ในจุดเดียว ฉันต้องบอกว่าซีซั่นนี้นำเสนอเรื่องราวที่หลงทางกลับเข้าฝั่งได้อย่างสวยงามทีเดียว

สรุป

เนื้อหาของซีซั่นสุดท้ายนี้ค่อนข้างน่าติดตามเพราะมีตัวเอกคือตัวร้ายนัมซองวอนในร่างของพยอนซังอุค (อีจินอุค) ที่ต้องการค้นหาร่างที่ดีที่สุดที่จะครอบครอง เขาพบว่าลูกสาวของเขาและซออีคยองเป็นสัตว์ประหลาดที่มีพลังพิเศษที่ใกล้ชิดกับกษัตริย์มากที่สุด ดังนั้นเขาจึงตั้งเป้าหมายที่จะหลอกล่อลูกสาวของเขาและยึดร่างนั้น ในขณะที่ชาฮยอนซูก็พบพลังในการนำสัตว์ประหลาดกลับคืนสู่มนุษย์หลังจากนำซออีคยองกลับมา แต่เขาสูญเสียการควบคุมร่างกายของเขาไปสู่ด้านมืด

อึนยูต้องเดินทางกับชาฮยอนซูผู้ชั่วร้ายและผู้รอดชีวิตที่เหลือเพื่อนำซออีคยองและลูกสาวของเธอกลับมา ระหว่างทางเขาได้พบกับอึนฮยอกที่กลับมาเกิดใหม่เป็นคนละคนเพื่อร่วมเดินทาง ตัวเอกต้องกล้าหาญต่ออันตรายในสนามกีฬาเพื่อหยุดยั้งนัมซองวอนจากการฆ่าภรรยาของเขาและยึดร่างของลูกสาวของเขาในเวลา ในขณะเดียวกัน ผู้รอดชีวิตในสนามกีฬาที่อยู่ภายใต้การปกครองของนัมซองวอนและเพื่อนๆ ของเขาได้รับความช่วยเหลือจากกองทัพดำเพื่อหลบหนี จ่าสิบเอกทักเองก็เริ่มแสดงอาการติดเชื้อที่รุนแรงมากขึ้น

เราจะเห็นว่าเรื่องราวของมันลีนมีรูปแบบที่ดูง่ายกว่ามาก แม้ว่าจะมีตัวละครมากมาย แต่พวกเขาก็เริ่มรวมกลุ่มกันที่ง่ายต่อการติดตาม ตัวละครหลักหลังจากถูกยึดครองได้กลายเป็นเด็กเลวที่หล่อเหลาและเท่ ทำให้มีเสน่ห์ยิ่งขึ้น ทำให้ซีซันที่สามนี้ดูสนุกยิ่งขึ้น แม้ว่า CG จะยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้างที่ทำให้สะดุดเล็กน้อย แต่ก็มีฉากการต่อสู้ระหว่างสัตว์ประหลาดเทพมากขึ้น คุณไม่ได้เห็นเพียงสัตว์ประหลาดที่แปลงร่างมากมายอีกต่อไป นอกจากนี้ บอสสุดท้ายนัมซองวอนยังทั้งชำนาญและโหดร้าย ทำให้ตื่นเต้นยิ่งขึ้นเพราะแม้ว่าพระเอกจะมีเทพเจ้ามากมายมาช่วยเหลือเขา แต่เขาก็ยังสร้างอุปสรรคบางอย่างเพื่อทำให้สถานการณ์ยากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีรีวิวซีรีส์ Sweet Home 3

อีกประเด็นหนึ่งคือไม่มีเส้นทางหลายเส้นทางไปสู่ละครอีกต่อไป ความรักสามเส้าจากตัวละครทหารใหม่ ปาร์คชานยอง (จินยอง) ที่พยายามเข้ามาแทรกกลางระหว่างชาฮยอนซูและอึนยู โดยมีตัวละครหญิงอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวพันกับเขา ไม่น่ารำคาญอีกต่อไป เรื่องราวความรักนี้เหมาะกับเรื่องราวที่กำลังจะจริงจังขึ้น และไม่ดูน่ารำคาญหรือกวนประสาทเหมือนซีซั่นก่อน

ภาพรวมของซีซั่นนี้ถือว่าเจ๋ง ตื่นเต้น และมีดราม่าและเซอร์ไพรส์ที่ทำให้คุณตื่นเต้นและเศร้าไปกับตัวละครที่เราผูกพันมานาน มีบทสนทนาที่น้อยลงแต่เฉียบคมขึ้น เช่น ฉากที่อึนยูคุยกับชาฮยอนซูเป็นครั้งสุดท้ายก่อนการต่อสู้ครั้งใหญ่ ซึ่งมีผลกระทบมาก CG ก็โอเค และเรื่องราวก็จบลงได้ดีโดยไม่มีความเสียใจใด ๆ แต่ถ้าคุณไม่เคยดูซีรีส์นี้มาก่อน ฉันต้องบอกว่าไม่คุ้มที่จะทนดูซีซั่นก่อน ๆ ที่น่าหดหู่เพื่อดูซีซั่นนี้และเข้าใจมัน แต่ถ้าคุณดูครบ 2 ซีซั่น คุณจะได้รับรางวัลปลอบใจเพื่อชดเชยความพยายามของคุณได้

บทความที่เกี่ยวข้อง